สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ละครเป็นงานสร้างสรรค์ที่มีศิลปะ ก็คือ ความจริง (TRUTH) และความจริงใจ (SINCERITY) ในการนำเสนอ (PRESENTATION) หรือแสดงออก (EXPRESSION) ซึ่งความจริงอันนั้น
ความจริง (TRUTH)ในละครที่ผู้กำกับการแสดงต้องหาให้พบและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนลงมือกำกับการแสดง ก็คือ สัจธรรมของผู้ประพันธ์ หรือ ความจริงที่ละครเรื่องนั้นต้องการสื่อสารกับผู้ชม
ปัญหาที่เป็นอุปสรรคสูงสุดต่อการพัฒนาต่อการพัฒนาการของการแสดงที่เป็นศิลปะและเป็นมูลเหตุสำคัญของปัญหาอื่นๆที่ติดตามมาก็คือ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความจริง (TRUTH) ในการแสดง ได้แก่
- ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของคำว่า “การแสดง” ว่าเป็นการเสแสร้งปั้นแต่งกิริยาขึ้นโดยปราศจาก “ความจริง” ใดๆ
- ความเข้าใจผิดที่ทำให้เกิดความเชื่อว่า เมื่อเป็น “ละคร” แล้ว ไม่จะเป็นต้อง “จริง” หรือ “เป็นตัวละคร” แล้วต้อง “ไม่จริง” ซึ่งนำไปสู่การยอมรับการแสดงที่มีลักษณะ “เสแสร้งแกล้งทำ” ในวงกว้าง ทำให้ยากต่อการแก้ไข
- ความสับสนระหว่างความหมายของคำว่า ความจริง (TRUTH) กับ ความเป็นจริง(REALITY) ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิดที่ว่า ละครที่มี ความจริง (TRUTH) จะต้องเป็นละครที่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ความเป็นจริง(REALITY) ของชีวิตในแนว สัจจนิยม (REALISM) และธรรมชาตินิยม (NATURALISM) เท่านั้น ส่วนละครประเภทอื่นๆ หรือแนวอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครสมัยใหม่ที่เสนอในแนวที่เรียกโดยรวมว่า “แนวต่อต้านสัจจนิยมและธรรมชาติ (ANTI-REALISM AND NATURALISM) นั้น ไม่จำเป็นต้องมี หรือไม่ควรมี ความจริง (TRUTH)ซึ่งความเข้าใจผิดดังกล่าวนำไปสู่การเสนอละคร “จงใจ”แสดงแนวต่างๆ โดยมุ่งเน้นที่รูปแบบ (FORM) มากกว่าเนื้อหา (CONTENT) เป็นผลให้การแสดงขาดความจริงใจ (SINCERITY) และขาดศิลปะในแง่ของการละคร
- การเข้าใจผิดว่า “การแสดงเป็นธรรมชาติอย่างจอมปลอม” (FAKED NATURALISM) คือการให้ ความจริง (TRUTH) แก่บทบาทการแสดง ซึ่งนำไปสู่การแสดงที่ “จงใจ”เสนอความเป็นธรรมชาติโดยปราศจาก “ความจริงภายใน” (INNER REALISM) ทำให้ขาดศิลปะของการแสดงอย่าสิ้นเชิง
- ความเข้าใจผิดที่ว่า“การลอกเลียนธรรมชาติอย่างละเอียดลออทุกกระเบียดนิ้ว”(PHOTOGRAPHIC COPYING) กับ ความจริง(TRUTH) ในละครเป็นสิ่งเดียวกัน ทำให้ทั้งผู้กำกับการแสดง และนักแสดงมุ่งเน้นรายละเอียดปลีกย่อยจนกระทั่งบดบัง ความจริง (TRUTH) ที่ละครเรื่องนั้นต้องการเสนอ