ละครประเภทตลกขบขัน หรือที่เรียกว่า ฟาร์ส (FARCE)
FARCE ถือเป็นละครตลกที่เก่าแก่ที่สุด เกิดขึ้นก่อนที่จะมีภาษาที่ไพเราะหรือวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการละครหลายท่านมีความเห็นว่า Farce ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของละครตลกทั่วไปนั้น คงจะเกิดขึ้นจาก ธรรมชาติของมนุษย์ที่รู้จักหัวเราะให้กับข้อบกพร่อง และความผิดพลาดของตนเอง และผู้อื่น ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติที่ทำให้มนุษย์ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ลำบากยากเข็ญ หรือไม่สบอารมณ์ตัวเองได้ ในขณะเดียวกัน มนุษย์ก็ได้รับความสุขและการผ่อนคลายความตึงเครียดจากการหัวเราะ
ฉะนั้น มนุษย์จึงนิยมที่จะหาวิธีกระตุ้นให้เกิดอาการหัวเราะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจขึ้น การแสดงกิริยาอาการที่ทำให้เกิดความขบขัน จึงเป็นที่มาของละครตลกขั้นพื้นฐานคือ Farce นี้ เชื่อกันว่าการแสดงตลกดังกล่าวคงจะมีมาตั้งแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ นับตั้งแต่มนุษย์เริ่มจะมีความเป็นอยู่ที่ดีพอ ไม่ต้องพะวงกับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของชีวิตจนเกินไป มีเวลาให้กับการพักผ่อนหย่อนใจ และการแสวงหาความสุขสนุกสนานพอสมควร มนุษย์ก็เริ่มนำการแสดงที่ชวนให้ขบขันเข้ามาแทรกในการแสดงที่เคยเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ หรือจริงจังมาแต่เดิม เช่น ในการทำพิธีที่เคยเป็นแบบเวทย์มนต์คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ทำนอง “ตัดไม้ข่มนาม” ที่กำหนดให้มีนายพรานออกมาร่ายรำทำท่าฆ่าสัตว์ที่ชนเผ่านั้นต้องการจะจับ แทนที่จะให้ผู้แสดงเต้นรำเป็นนายพรานฟันถูกผู้แสดงเป็นสัตว์เช่นที่เคยเป็นมาในการแสดงที่เป็นพิธีการ นายพรานก็กลับฟันที่ไรพลาดทุกที จนกระทั่งบางครั้ง นายพรานซึ่งควรที่จะมีการเก่งกาจ สง่าผ่าเผย กลับเงอะงะ หกล้มหกลุกเป็นที่ตลกขบขันสรวลเสเฮฮาของบรรดาคนในเผ่าที่นั่งล้อมวงดูกันอยู่อย่างสบอารมณ์ยิ่งนัก
FARCE ถือเป็นละครตลกที่เก่าแก่ที่สุด เกิดขึ้นก่อนที่จะมีภาษาที่ไพเราะหรือวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการละครหลายท่านมีความเห็นว่า Farce ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของละครตลกทั่วไปนั้น คงจะเกิดขึ้นจาก ธรรมชาติของมนุษย์ที่รู้จักหัวเราะให้กับข้อบกพร่อง และความผิดพลาดของตนเอง และผู้อื่น ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติที่ทำให้มนุษย์ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ลำบากยากเข็ญ หรือไม่สบอารมณ์ตัวเองได้ ในขณะเดียวกัน มนุษย์ก็ได้รับความสุขและการผ่อนคลายความตึงเครียดจากการหัวเราะ
ฉะนั้น มนุษย์จึงนิยมที่จะหาวิธีกระตุ้นให้เกิดอาการหัวเราะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจขึ้น การแสดงกิริยาอาการที่ทำให้เกิดความขบขัน จึงเป็นที่มาของละครตลกขั้นพื้นฐานคือ Farce นี้ เชื่อกันว่าการแสดงตลกดังกล่าวคงจะมีมาตั้งแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ นับตั้งแต่มนุษย์เริ่มจะมีความเป็นอยู่ที่ดีพอ ไม่ต้องพะวงกับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของชีวิตจนเกินไป มีเวลาให้กับการพักผ่อนหย่อนใจ และการแสวงหาความสุขสนุกสนานพอสมควร มนุษย์ก็เริ่มนำการแสดงที่ชวนให้ขบขันเข้ามาแทรกในการแสดงที่เคยเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ หรือจริงจังมาแต่เดิม เช่น ในการทำพิธีที่เคยเป็นแบบเวทย์มนต์คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ทำนอง “ตัดไม้ข่มนาม” ที่กำหนดให้มีนายพรานออกมาร่ายรำทำท่าฆ่าสัตว์ที่ชนเผ่านั้นต้องการจะจับ แทนที่จะให้ผู้แสดงเต้นรำเป็นนายพรานฟันถูกผู้แสดงเป็นสัตว์เช่นที่เคยเป็นมาในการแสดงที่เป็นพิธีการ นายพรานก็กลับฟันที่ไรพลาดทุกที จนกระทั่งบางครั้ง นายพรานซึ่งควรที่จะมีการเก่งกาจ สง่าผ่าเผย กลับเงอะงะ หกล้มหกลุกเป็นที่ตลกขบขันสรวลเสเฮฮาของบรรดาคนในเผ่าที่นั่งล้อมวงดูกันอยู่อย่างสบอารมณ์ยิ่งนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น