A PART OF MY LIFE

A PART OF MY LIFE
เป็นเวปในฝัน ที่ทำเพื่อ "บูชาครูการละคร" ทั้งหลายที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาศิลปการละครให้แก่ข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าได้นำความรู้เหล่านั้นมาหากินเลี้ยงชีพมาตราบจนทุกวันนี้ เช่น ครูใหญ่ อ.สดใส พันธุมโกมล,ครูช่าง อ.ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง,ครูแอ๋ว อ.อรชุมา ยุทธวงศ์,ครูอุ๋ย อ.พรรัตน์ ดำรุง,พี่อี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต,อารอง เค้ามูลคดี,อาโต รัชฟิล์ม และอีกหลายๆท่าน โดยนำคำสอนของบรรดาครูทั้งหลาย และเหล่าพี่น้องภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่รัก "ละครเวที" ครับ

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2551

พัฒนาการต่อมาของละครประเภท TRAGEDY


หลังจากที่ THESPIS ได้เริ่มพัฒนาบทเพลงสวดบูชาที่เรียกว่า DYTHYRAMB มาเป็นบทละครที่มีบทเจรจาโต้ตอบกันระหว่าง ACTOR กับกลุ่ม CHORUS ซึ่งกลายเป็นบทละครประเภท TRAGEDY แล้ว ต่อมาก็ได้มีผู้ปรับปรุงแกไขบทละครประเภทนี้ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คือ AESCHYLUS ได้เพิ่มนักแสดงขึ้นเป็น 2 คน และ SOPHOCLESได้เพิ่มจำนวนนักแสดงขึ้นเป็น 3คน ซึ่งทำให้เกิดการเป็น “ประเพณีนิยม” (CONVENTION) ของละครกรีกโบราณว่า จะต้องมีกลุ่ม CHORUS และตัวละครซึ่งมีบทเจรจาโต้ตอบกันในฉากหนึ่งๆ ไม่เกิน 3 คน ทั้งนี้หมายความว่า ในละครเรื่องหนึ่งๆ อาจมีตัวละครเกินกว่า 3 ตัวได้ แต่ตัวละครเหล่านั้นจะออกมาพูดในฉากเดียวกันเกินกว่าฉากละ 3 คน ไม่ได้ ทั้งนี้เพราะมีนักแสดงเพียง 3 คน นักแสดงเหล่านั้น จะแสดงเป็นตัวละครทุกตัวในเรื่อง โดยแบ่งบทกันไปตามความเหมาะสม นักแสดงคนหนึ่งอาจแสดงได้หลายบทโดยการใช้การเปลี่ยนหน้ากาก เสื้อผ้า ลีลาการแสดงของตน ฉะนั้นผู้เขียนบทละครกรีกโบราณจึงต้องเขียนบทให้มีตัวละครซึ่งมีบทเจรจาโต้ตอบกันในฉากหนึ่งๆ ไม่เกิน 3 คน เพื่อให้เหมาะสมกับประเพณีการละครดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: